ณัฐวรรธ์ เกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2546 ที่ประเทศเยอรมนี เป็นลูกครึ่ง ไทย-เยอรมัน เป็นบุตรของไรน์โฮลด์ แบนด์ฮาร์ด ฟิงค์เลอร์ และ รสริน ฟิงค์เลอร์ ณัฐวรรธ์จบการศึกษาชั้นอนุบาล และ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-4 จากประเทศเยอรมนี ในเดือน กรกฎาคม ปี พ.ศ. 2557 ณัฐวรรธ์ได้ย้ายตามมารดากลับมาที่ประเทศไทย โดยใช้เวลาทั้งหมด 3 เดือน ในการสอบเทียบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยในเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2557 ณัฐวรรธ์จึงสามารถเข้าเรียนชั้น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ที่โรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด หลักสูตร English Program ได้ โดยจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนอนุบาลร้อยเอ็ด และจบศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จาก โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย หลักสูตร Gifted Program โดยระหว่างเรียนณัฐวรรธ์มีโอกาสได้เป็นรองประธานชมรม TO BE Number 1[4][5] ในการนำเสนอผลงานรอบระดับประเทศ ณ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ทางชมรมได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ของประเทศ ประเภทดีเด่น[6] รวมไปถึงคทากร วงโยธวาฑิต ของโรงเรียน[7] และได้เป็นพิธีกรงานต่างๆ ของโรงเรียนอีกเช่นกัน ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ณัฐวรรธ์สอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สาขา ศิลป์-ภาษาเยอรมัน Gifted English โดยเรียนไปเพียง 1 ปีได้ตัดสินใจสอบเทียบ General Educational Development (GED) ก่อนจะเดินทางไปประเทศจีนเพื่อเข้าร่วมแข่งขันรายการพรอดิวซ์แคมป์ 2021[8][9]

ในปีพ.ศ. 2559 ณัฐวรรธ์ได้รับเลือกให้เข้าร่วมเป็น 1 ในนักแสดงซีรีส์เรื่อง ภูแก้มนนท์ @ 101 ในบท เกม[10] แต่ภายหลังได้ถอนตัวออกจากซีรีส์ เนื่องจากปัญหาเรื่องเวลา จากการเลื่อนถ่ายทำและการออกเสียงภาษาไทย

ณัฐวรรธ์เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการร่วมประกวดโครงการ "GO ON GIRL & GUY Star Search by Clean & Clear คาแรคเตอร์ไหน หน้าใส ก็เป็นดาว" ปี พ.ศ. 2562 จนได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะการประกวดฝ่ายชาย และมีโอกาสได้ร่วมงานกับทาง GMM TV ในการแสดงซีรีส์ "The Gifted Graduation" เป็นเรื่องแรกในชีวิต รวมถึงร่วมรายการ "Beauty and The Babes SS2" อีกด้วย[11]

ในเวลาต่อมา ณัฐวรรธ์ได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินกับบริษัท Insight Entertainment ในชื่อ 尹浩宇 หรือ Yin Haoyu และได้เข้าร่วมรายการ "พรอดิวซ์แคมป์ 2021" ในรอบคัดเกรดรอบแรก ณัฐวรรธ์ได้ทำการแสดงในเพลง “Me and My Broken Heart” ของ “Rixton” ร่วมกับ กรชิต บุญสถิต์ภักดี หรือ นาย เพื่อนร่วมสังกัดเดียวกัน[12][13] และได้รับโอกาสจากเมนเทอร์ให้แสดงความสามารถเพิ่มในรอบ Extra Round โดยณัฐวรรธ์เลือกร้องเพลง "Way Up" ที่แต่งเอง[14] และท่องกลอนจีน[15] โดยได้รับคะแนนรวมอยู่ที่เกรด B ต่อมาในรอบแบทเทิล ณัฐวรรธ์ได้รับเลือกจากเติ้ง เชาให้เป็นเด็กฝึกแนะนำ โดยณัฐวรรธ์เลือกคู่ต่อสู้จากคลาส A เป็น หลี่เจียเฉียง ณัฐวรรธ์เลือกแสดงการร้องในเพลง "Thinking ‘bout You"[16] ที่แต่งเอง แต่เนื่องจากผลโหวตออกมาเสมอกันจึงต้องแข่งเพิ่มอีก 1 อย่าง โดยณัฐวรรธ์เลือกแสดงการเต้นในเพลง "Like This"[17] ผลการแข่งขันคือณัฐวรรธ์แพ้การแบทเทิลและตกไปอยู่ที่คลาส F ในการประเมินครั้งที่ 1 ณัฐวรรธ์เลือกแสดงเพลง "Radio" ของ เฮนรี หลิว ร่วมกับเพื่อนๆเด็กฝึกในทีมชื่อ Dream Team[18] โดยจับฉลากคู่ต่อสู้เป็นเพลง "Lover Boy 88" ของ วิภูริศ ศิริทิพย์ ในทีมชื่อ Progressive Boys ผลการแข่งขันคือ Dream Team แพ้และทั้งทีมได้รับการประเมินเป็นเกรด C[19] ในการประเมินเพลงธีมรายการชื่อเพลง "Chuang To-Gather, Go!"[20] ณัฐวรรธ์ได้รับเลือกจากเมนเทอร์ให้ได้ขึ้นไปอยู่เกรด A ในตำแหน่ง 11 คนแรกและเป็นครั้งแรกของณัฐวรรธ์ที่ได้เข้าไปอยู่ในตำแหน่งเดบิวท์[21] ในการประเมินครั้งที่ 2 ณัฐวรรธ์เลือกแสดงคอนเซปการร้องในเพลง "You Better Not Think About Me" ของ ฮีบี้ เถียนฟู่เจิน ร่วมกับเพื่อนๆเด็กฝึกในทีมชื่อ You Have to Remember Us Team[22][23] ในการประเมินครั้งที่ 3 ณัฐวรรธ์เลือกแสดงเพลง "Jade" ร่วมกับเพื่อนๆเด็กฝึกในทีมโดยมีแขกรับเชิญคือ หลิว เซียหนิง[24][25] ในรอบสุดท้าย ณัฐวรรธ์เลือกแสดงทีมในเพลง "We Are The Youth, We Are The Future"[26] และเลือกการแสดงเดี่ยวเป็นคอนเซปการเต้นในเพลง "Bad and Boujee"[27] ผลการโหวต ณัฐวรรธ์ได้รับอันดับที่ 9 จากการแข่งขัน[28] และได้เดบิวท์เป็นสมาชิกวง "อินทูวัน" (INTO1)[29] ทำให้ณัฐวรรธ์โด่งดังเป็นที่รู้จักทั้งในไทยและต่างประเทศ [30][31][32][33][34][35]